วันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2559

ขนมใส่ไส้ประยุกต์

Picture

ขนมสอดไส้ประยุกต์ - ขนมใส่ไส้ประยุกต์ ขนมสอดไส้หรือใส่ไส้เป็นขนมไทยโบราณที่มีมาตั้งแต่ดั้งเดิม จากแต่เดิมเราต้องใช้ใบตองในการห่อหุ้มแป้งและไส้ นำมานึ่งจนสุกแต่ขนมสอดไส้ประยุกต์เปลี่ยนมาใช้การต้มก้อนแป้งที่หุ้มไส้ไว้ให้สุก และการกวนหน้ากะทิแล้วนำมาหยอดในพิมพ์แทน ซึ่งมีวิธีการทำไม่ยุ่งยากเลย

ส่วน "ผสมไส้"
1. มะพร้าวขูดขาวหรือเนื้อมะพร้าวทึนทึกขูด 150 กรัม
2. น้ำตาลมะพร้าวอย่างดีหรือน้ำตาลปี๊บอย่างดี 150 กรัม
3. น้ำลอยดอกมะลิ 50 กรัม

ส่วนผสม "แป้งสำหรับหุ้มไส้"
1. แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วยตวง
2. หัวกะทิสด 2-3 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำใบเตยคั้น 2-3 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสม "หน้ากะทิสำหรับยอด" 
1. กะทิสด 1 1/2-2 ถ้วยตวง
2. แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนโต๊ะ
3. แป้งถั่วเขียว(แป้งซาหริ่ม) 1 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำตาลทราย 1-2 ช้อนโต๊ะ
5. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ  "ขนมสอดไส้ประยุกต์ "
1. การทำไส้ขนมเตรียมกระทะทองสำหรับกวนส่วนผสมไส้ ใส่น้ำตาลมะพร้าวลงไป ตามด้วยน้ำลอยดอกมะลิ คนพอละลาย เปิดไฟกลางถึงอ่อน ใส่มะพร้าวขูดขาวลงไป ใช้พายไม้กวนไปในทางเดียวกัน จนเหนียว จับตัวเป็นก้อน ปิดไฟยกลง ปั้นเป็นก้อนกลมๆขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางครึ่งนิ้ว พักไว้ สามรถนำไปอบควันเทียนเพื่อความหอมพักไว้
2. การทำแป้งหุ้มไส้เตรียมอ่างผสม ใส่แป้งลงไป ค่อยๆเทหัวกะทิ นวดสลับกับน้ำใบเตย จนแป้งเหนียว นุ่ม เนื้อเนียน แบ่งแป้งเป็นก้อนกลมๆขนาดประมาณเส้นผ่านศูนย์กลางครึ่งนิ้วแผ่เป็นก้อนกลมๆ นำไส้ขนมที่อบควันเทียนมาใส่ หุ้มให้มิดคลึงเบาๆให้เป็นก้อนกลมๆพักไว้
3. ตั้งหม้อใส่น้ำลงไป เปิดไฟจนน้ำร้อนและเดือด นำแป้งที่ใส่ไส้ลงต้มให้สุกลอย แล้วตักใส่ถ้วยพิมพ์ที่มีหน้ากะทิตักหยอดไว้ รอให้เซ็ตตัว
4. ทำหน้ากะทิโดยเตรียมถ้วยผสมใส่กะทิและแป้ง คนจนส่วนผสมละลาย จากนั้นตั้งกระทะทองเหลือง ใส่ส่วนผสมลงไป ตามด้วยน้ำตาลทราย เกลือป่น กวนจนส่วนผสมข้น เข้ากัน แล้วตักใส่พิมพ์ประมาณครึ่งถ้วย นำไส้ขนมมาใส่วางตรงกลาง

บักไข่ผำ เมนูหายากของชาวอีสาน

วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2559

สูตรขนมไทย กรอบเค็ม


Picture

ส่วนผสมตัวแป้ง
1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ตราว่าว 3 ถ้วย
2. แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
3. ไข่เบอร์ 2 ตีให้เข้ากัน 1 ฟอง
4.น้ำปูนใส 3/4 ถ้วย
5. น้ำ 3/4 ถ้วย
6. น้ำมันพืช 8 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ 
1. ร่อนแป้ง 2 อย่างให้เข้ากัน แล้ว ใส่ส่วนผสมทั้งหมดพร้อมกัน แล้วนวด นวดพอให้เนื้อเนียนคะ อย่านวดนาน แป้งจะเหนียวได้ ถ้าส่วนผสมเหลวไปก็เติมแป้งข้าวจ้าวไปได้ค่ะ ถ้าแห้งใส่น้ำเพิ่มให้พอดีนะคะ
2.นำแป้งมา ตัดแบ่งเป็นก้อนให้ เท่าๆ กันแล้วคลึงให้บางๆ คะ จะทำรูปร่างแบบไหนก็ได้นะคะ
3.ตั้งกระทะไฟอ่อนไปกลางคะ รอจนร้อน แล้วนำแป้งที่คลึงไว้ ลงทอดจนเหลืองทั่ว(อย่าให้เหลืองเกินไป เพราะขนมสุกจะเข้มขึ้นอีก) เสร็จแล้วตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมันคะ

ส่วนน้ำตาลคลุก ( สูตรไม่ใส่แบะแซ)
1. รากผักชีหั่น 2 ช้อนโต๊ะ
2. กระเทียมแกะเปลือก 2 ช้อนโต๊ะ
3. พริกไทเม็ด 2 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำมันพืช 5 ช้อนโต๊ะ(สำหรับผัดส่วนผสม)
5. น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
6. น้ำตาลปี๊บ 2 ถ้วย
วิธีทำ
1.โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไท ให้เข้ากัน
2. ตั้งกระทะไฟอ่อน ผัด ส่วนผสมข้อ 1 จนมีกลิ่นหอมแล้วใส่น้ำปลา น้ำตาลปี๊ป เคี่ยวให้เป็นยางนิดๆ
** ( ถ้าต้องการใส่แบะแซ ให้ใส่ไปครึ่งถ้วย เคี่ยวไปพร้อมๆ กัน จะทำให้ขนมมันวาว เหมือนที่ขายกันทั่วๆ ไปคะ )
3. นำตัวกรอบเค็มมาคลุกเคล้าให้ทั่วๆ ทิ้งไว้ให้เย็นคะ แล้วเก็บใส่ภาชนะ

วันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2559

ปลาร้าอึ่ง รสเด็จ

เนื้องู ยาชูกำลัง

วันศุกร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2559

ไก่ทอดซอสเผ็ดแบบเกาหลี (양념치킨)

Picture

ไก่ทอดเกาหลีนี่มีคนทำหลายแบบ หลายสูตรมากๆ
เราก็ลองทำมาหลายแบบ หาสูตรจนได้สูตรนี้ที่ทำง่าย เครื่องปรุงหาง่ายด้วย เลยอยากมาแนะนำให้ลองทำกันดู

ส่วน ไก่ทอด
ปีกไก่ น่องไก่
แป้งทอดกรอบ
แป้งข้าวโพด
พริกไทยป่น
เกลือ

ปีกไก่ น่องไก่ ล้างให้สะอาดแล้วมาหมักกับ เกลือ พริกไทย ทิ้งไว้ประมาณ 15-30 นาที
ผสมแป้งทอดกรอบ กับ แป้งข้าวโพด อัตราส่วน 1 : 1 (เราใช้แป้งโกกิค่ะ)  คลุกไก่กับแป้งให้ทั่ว แล้วพักไว้ แป้งจะซึมเข้าหนังไก่เพราะมีน้ำอยู่  พอเห็นแป้งซึมเข้าไปแล้วให้คลุกอีกรอบ เป็นการคลุกแป้ง 2 รอบ
จากนั้นทอดรอบที่ 1 ด้วยไฟกลาง พอเหลืองกรอบซักพักให้ตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำมันก่อน เป็นการทอดครั้งแรก (แบบในรูป)
พอไก่เย็นลงซักพักให้เอาลงทอดครั้งที่ 2 คราวนี้ใช้ไฟแรง ทอดจนไก่เป็นสีออกน้ำตาลนะคะ

ซอสที่ใช้คลุก
เนย 1/2 ช้อนโต๊ะ
ซอสมะเขือเทศ  3 ช้อนโต๊ะ
โคชูจัง 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำผึ้ง หรือ น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ

ละลายเนยในกระทะ แล้วใส่ส่วนผสมทั้งหลายลงไป ปรับรสตามชอบเลยค่ะ

พอเดือดซักพัก ปิดไฟ แล้วใส่ไก่ทอดลงไปคลุก 

วันพฤหัสบดีที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2559

วิธีทำขนมถ้วยตะไล

Picture

วิธีทำขนมถ้วย สูตรขนมไทยในดวงใจที่ได้ตักขึ้นมากินทีไรถ้วยเดียวไม่เคยพอ แคะ ๆ กิน ๆ เผลอแป๊บเดียวกินจนหมดจาน แต่ถ้าใครอยากจะลองทำกินเองก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยสักนิดถ้ามีอุปกรณ์ครบ
ส่วนผสม (หน้าขนม)
           แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
           น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
           เกลือป่น 1 ช้อนชา
           หัวกะทิ 2 ถ้วย
  ส่วนผสม (ตัวขนม)
           แป้งข้าวเจ้า 3/4 ถ้วย
           น้ำตาลปี๊บ 230 กรัม
           แป้งมันสำปะหลัง 1/4 ถ้วย
           แป้งท้าวยายม่อม 1 ช้อนโต๊ะ
           น้ำลอยดอกมะลิ 1 1/4  ถ้วย (หรือน้ำผสมกลิ่นมะลิ)
           หางกะทิ 1/2 ถ้วย
  อุปกรณ์เพิ่มเติม
           ถ้วยขนมถ้วย (หรือถ้วยทนความร้อนสำหรับนึ่ง)
           ชุดนึ่ง

  วิธีทำ 
1. ทำหน้าขนมโดยผสมแป้งข้าวเจ้า น้ำตาลทราย เกลือป่น และหัวกะทิเข้าด้วยกัน ใช้มือขยำส่วนผสมจนเข้ากันและไม่เป็นเม็ด จากนั้นนำไปกรองผ่านตะแกรง เตรียมไว้ 
2. ทำตัวขนมโดยผสมแป้งข้าวเจ้า น้ำตาลปี๊บ แป้งมันสำปะหลัง แป้งท้าวยายม่อม น้ำลอยดอกมะลิ และหางกะทิเข้าด้วยกัน ใช้มือขยำส่วนผสมจนเข้ากันจนน้ำตาลปี๊บละลายหมด จากนั้นนำไปกรองผ่านตะแกรง เตรียมไว้    
3. นำถ้วยขนมไปนึ่งประมาณ 5 นาที (ป้องกันไม่ให้ขนมติดถ้วย) 
4. เทส่วนผสมตัวขนมลงไปในถ้วย (ให้เกินครึ่งถ้วยเล็กน้อย) จากนั้นปิดฝานึ่งประมาณ 5 นาที พอครบเวลา ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้ประมาณ 1-2 นาที
5. เทส่วนผสมหน้ากะทิลงไปจนเต็มถ้วย นำไปนึ่งต่ออีกประมาณ 6-7 นาทีจนขนมสุก ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็นประมาณ 10 นาที
6. ค่อย ๆ ใช้ไม้พายหรือไม้ไศกรีมแช่น้ำแคะขนมออกจากถ้วย จักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ