วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2558

มารู้จักกับ องุ่นแห่งท้องทะเล

Picture

สาหร่ายพวงองุ่นคืออะไร ?
          สาหร่ายพวงองุ่นมีหลากหลายชื่อเรียกมาก จะเรียกกันไปตามแต่ละพื้นที่ ซึ่งคนไทยจะรู้จักกันในชื่อของ สาหร่ายพวงองุ่น, สาหร่ายพริกไทย, คาเวียร์สีเขียว (Green Caviar) หรือองุ่นแห่งท้องทะเล (Sea Grapes) นอกจากนี้ยังมีชื่อในภาษาอื่น ๆ อีก เช่น  Lelato, Ararusip และ Lato ส่วนชาวญี่ปุ่น ประเทศที่นิยมกินสาหร่ายชนิดนี้จะเรียกว่า Umi-budou ซึ่งแปลว่า องุ่นแห่งท้องทะเล เพราะด้วยรูปลักษณ์ของสาหร่ายชนิดนี้จะเป็นเม็ดกลมเล็ก ๆ สีเขียวเกาะกันเป็นพวง ๆ ช่อ ๆ มองดูคล้ายพวงองุ่นจิ๋ว และบางทีดูไปดูมาก็เหมือนช่อพริกไทยสด จึงมีหลายคนเข้าใจว่าสาหร่ายช่อพริกไทย และสาหร่ายพวงองุ่นคืออย่างเดียวกัน อันที่จริงก็จัดอยู่ในตระกูลเดียวกัน แต่สาหร่ายช่อพริกไทยจะมีขนาดเล็กกว่าสาหร่ายพวงองุ่นเล็กน้อย

 ประโยชน์ของสาหร่ายพวงองุ่น

          สาหร่ายพวงองุ่นจัดเป็นหนึ่งในสาหร่ายที่รับประทานได้ มีคุณค่าทางอาหารสูงและเป็นหนึ่งในอาหารยอดนิยมของชาวญี่ปุ่น ประโยชน์คล้ายคลึงกับสาหร่ายทั่ว ๆ ไป ในสาหร่ายชนิดนี้มีแร่ธาตุที่สำคัญ คือ แมกนีเซียม แคลเซียม โพแตสเซียม สังกะสี ไอโอดีน เบต้าแคโรทีน และก็ยังมีกรดอะมิโนที่จำเป็นหลายชนิดที่ไม่พบในพืชบนบก มีแคลอรีต่ำ และกากใยสูงป้องกันท้องผูกและริดสีดวงทวาร ถึงแม้จะมีรสเค็มแต่ปริมาณเกลือต่ำ ปริมาณไขมันต่ำ ให้พลังงานน้อยแต่มีคุณค่าทางอาหารสูง มีประโยชน์ต่อสุขภาพเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันสูง และโรคหัวใจอีกด้วย

วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2558

คุกกี้เสี่ยงทายปีใหม่ Cookies Happy New Year

คุกกี้เสี่ยงทายปีใหม่ Cookies Happy New Year

Picture

คุกกี้เสี่ยงทาย Fortune Cookie - คุกกี้เสี่ยงทายปีใหม่ Cookies Happy New Year คุกกี้เสี่ยงทายเป็นคุกกี้ที่มีรูปทรงเหมือนกีบเท้าของหมูและมีลักษณะบางกรอบ มีคำทำนายสอดอยู่ด้านใน นิยมแจกที่ร้านอาหารจีนในต่างประเทศ นุ่นเลยดัดแปลงจากคำทำนายเป็นคำอวยพรต่างๆให้เข้ากับเทศกาลปีใหม่ ใครชอบของขวัญแนวใหม่น่าจะชอบคุกกี้ตัวนี้แน่นอน
วัตถุดิบ (สำหรับ 30 ชิ้น - เวลา 40 นาที)
1. ไข่ขาว 3 ฟอง
2. น้ำตาลทราย 6 ช้อนโต๊ะ
3. เกลือ 1/8 ช้อนชา
4. เนยจืดละลาย 2 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำเปล่า 2 ช้อนชา
6. กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
7. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1/2 ถ้วยตวง
วิธีทำ

1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส
2. ผสมไข่ขาว น้ำตาลทราย เกลือ น้ำเปล่า กลิ่นวานิลลา ตีให้เข้ากัน
3. ใส่เนยละลายลงไปตีให้เข้ากันและตามด้วยแป้งสาลีอเนกประสงค์คนให้เข้ากันอย่าให้แป้งเป็นเม็ด
4. ใช้ช้อนตวง 1 ช้อนชา ตักส่วนผสมเทลงบนกระดาษไข เกลี่ยให้แผ่ออกเป็นวงกลม ทำ 2-3 ชิ้นต่อ 1ครั้ง
5. นำเข้าอบ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 5-6 นาทีหรือจนขอบขนมมีสีน้ำตาล
6. นำออกมาจากเตาอบแล้วรีบจับทรงขนมให้เป็นรูปกีบเท้าหมู แล้ววางจัดทรงจนคุกกี้เย็น

วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เมนูอาหารสไตล์ฟิวชั่นแสนอร่อย ที่ร้าน ‘Just Me’

เมนูอาหารสไตล์ฟิวชั่นแสนอร่อย ที่ร้าน ‘Just Me’

Picture

 ไปทำความรู้จักกับร้านอาหารสไตล์ฟิลชั่น ไทย-ยุโรป ที่เปิดมานานกว่า 15 ปีแล้ว กับร้าน “Just Me”
ร้าน Just Me เป็นร้านอาหารสไตล์ผสมผสาน ระหว่าง ไทยและยุโรป โดยจะเน้นไปที่คุณภาพของวัสดุดิบหลักที่นำมาประกอบอาหาร รวมถึงการเลือกใช้ผักออแกนิคปลอดสารพิษเกรดพรีเมี่ยม เมนูอาหารของที่นี่ ก็มีให้บริการ ทั้งของอาหารคาว อาหารหวาน อาหารเพื่อสุขภาพ รวมถึงเครื่องดื่มต่าง ๆ อีกมากมาย

คุกกี้กระจกสี Stained Glass Cookie

Picture

คุกกี้กระจกสี Stained Glass Cookie (Christmas Desserts) คุกกี้หน้าตาสวยเก๋ ที่ได้แรงบันดาลใจจากสีสันสวยๆ ของกระจกสีในโบสถ์ของชาวคริสต์ ที่มาพร้อมกับรสชาติหวานมันอร่อยถูกปากถูกใจ และยังสามารถนำไปเป็นเครื่องตกแต่งบนต้นคริสต์มาสในเทศกาลแห่งสีสันนี้ได้ด้วยค่ะ หรือจะเจาะรูร้อยริบบิ้นสวยๆ เป็นสร้อยคอเส้นยาวก็น่ารักด้วยจี้ที่เป็นคุกกี้กระจกสีสันสวยๆให้เด็กๆในเทศกาลงานฉลองแบบไม่ซ้ำใครด้วยค่ะ เรียกได้ว่าสวยด้วยทานได้อร่อยด้วยและมีประโยชน์ใช้สอยเก๋ๆอีก มาลองทำกันดูเลย
วัตถุดิบ
สำหรับประมาณ 20 ชิ้น
เวลาที่ใช้ในการทำ 1 ชั่วโมง (เวลาที่ใช้ในการแช่ โดคุกกี้ 3 ชั่วโมง )
1. Cream Cheese 50 กรัม
2. เนยจืด 125 กรัม
3. น้ำตาลทราย 65 กรัม
4. ไข่ไก่ 1 ฟอง
5. กลิ่นวานิลลา 1 / 2 ช้อนชา
6. แป้งอเนกประสงค์ 230 กรัม
7. ผงฟู 1 / 4 ช้อนชา
8. เกลือป่น เล็กน้อย
9. ลูกอม ชนิดใส 20 – 25 เม็ด
วิธีทำ

1. ร่อนแป้งอเนกประสงค์ ผงฟู เกลือป่น
2. ใส่น้ำตาลทราย ลงในส่วนผสมแป้งที่ร่อนไว้แล้ว คลุกให้เข้ากันพักไว้หรือจะรอใส่น้ำตาลทรายในขั้นตอนการตีครีมชีสเนยจืดก็ได้เช่นกันค่ะ
3. นำ Cream Cheese ใส่ลงในชามผสมอีกใบหนึ่ง ตีให้มีลักษณะเป็นครีม
4. ใส่เนยจืดลงไปตีผสมต่อจนเข้ากับครีมชีสเป็นเนื้อเดียวกัน และมีลักษณะเป็นครีมฟูเล็กน้อย
5. ใส่ไข่ไก่ และกลิ่นวานิลลาลงไป ตีจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
6. นำส่วนผสมแป้งที่ร่อนพักไว้ ใส่ลงไปแบ่งใส่ 3 – 4 ครั้ง และตีส่วนผสมทั้งหมดให้โดคุกกี้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
7. ลองนวดโดคุกกี้ที่ได้ด้วยมืออีกครั้งประมาณ 1 นาที เพื่อเช็คให้แน่ใจว่าส่วนผสมทั้งหมดเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
8. แบ่งโดคุกกี้ที่ได้เป็น 2 ส่วน แล้วใช้ฟิล์มถนอมอาหารคุมโดคุกกี้ไว้ หรือใส่โดคุกกี้ลงถุงพลาสติกและปิดปากถุงให้สนิท แช่ในตู้เย็นใช้ช่องเย็นปกติ ประมาณ 3 ชั่วโมง
9. นำลูกอม ที่เตรียมไว้มาบด พักไว้
10. เมื่อแช่เย็นครบ 3 ชั่วโมง นำโดคุกกี้ออกมาจากตู้เย็นทีละก้อน ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ให้โดอ่อนตัวลงเล็กน้อย แกะฟิล์มถนอมอาหารที่คุมโดคุกกี้ไว้ออก จากนั้นรีดโดคุกกี้เป็นแผ่นโดคุกกี้ความหนาประมาณ 0.3 - 0.5 เซนติเมตร ( 3-5 มิลลิเมตร)
11. ใช้พิมพ์ลวดลายต่างๆ กดลงบนโด จากนั้นย้ายชิ้นคุกกี้ที่ตัดได้วางลงบนถาดที่รองกระดาษรองอบเรียบร้อยแล้ว
12. ใช้พิมพ์ที่มีขนาดเล็กกว่า กดเจาะลายตรงกลางให้เกิดช่องว่างในขั้นตอนนี้ ถ้าโดคุกกี้เริ่มแฉะให้นำกลับเข้าตู้เย็นประมาณ 10 นาที ให้โดคุกกี้เซ็ตตัวแล้วจึงนำกลับมาเจาะลายตรงกลางอีกครั้ง
13. ใช้หลอดขนาดเล็ก เจาะรูสำหรับแขวน (ขั้นตอนนี้จะทำหรือไม่ทำก็ได้ค่ะ)
14. นำลูกอมสีต่างๆที่บดรอไว้ มาใส่ลงในช่องว่างตรงกลางคุกกี้ให้เต็มพอดี
15. นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 190 องศาเซลเซียส อบโดยใช้ไฟบน-ล่าง เวลาประมาณ 8 – 10 นาที แล้วแต่ความหนาของชิ้นคุกกี้นะคะ (ถ้ารีดคุกกี้ได้ชิ้นหนาเกินไป ลูกอมจะละลายจนงวดและจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลได้ก่อนที่เนื้อคุกกี้จะสุกค่ะ)
16. เมื่อคุกกี้สุกนำออกจากเตาอบและพักให้เย็นบนถาด คุกกี้จะเซ็ตตัวลูกอมที่ละลายอยู่ในช่องตรงกลางจะค่อยๆเย็นตัวและแข็งตัวค่ะ (ขั้นตอนนี้ห้ามเคลื่อนย้ายคุกกี้ออกจากถาดจนกว่าจะเย็นนะคะ)
17. คุกกี้ที่เย็นตัวประมาณ 70% ลูกอมที่ละลายอยู่ในช่องตรงกลางจะแข็งตัวเหมือนกระจกสีใสๆแล้ว เราจะย้ายมาพักให้เย็นสนิทบนตะแกรงค่ะ
18. จัดเสิร์ฟได้หลังจากคุกกี้เย็นสนิท หรือร้อยริบบิ้นสวยๆผ่านรูที่เจาะไว้สำหรับนำไปแขวนตกแต่งบนต้นคริสต์มาส หรือร้อยเป็นสร้อยเส้นยาวให้เด็กๆแจกเพื่อนๆเป็นของขวัญต้อนรับคริสต์มาสแบบเก๋ๆ หรือใส่ขวดโหลหรือกล่องสวยๆ แจกเป็นของขวัญคริสต์มาสก็ได้เลยคะ

วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เมนูเปิบพิสดาร จระเข้หัน!!

วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2558

“ซูซิหน้าแมลง” ที่สาวกที่ชอบของแปลกไม่ควรพลาด

Picture

เชื่อว่าหลายๆคนคงจะลองทานซูซิกันมาบ้างแล้ว ด้วยรสชาติที่อร่อยแบบชาวญี่ปุ่น รวมไปถึงการให้เลือกหน้ารับประทานของซูซิที่มีให้เลือกอย่างมากมาย แต่ครั้งนี้มาแบบใหม่พิเศษ เพราะมีนักปั้นซูชิมือฉมังนามว่า "โชอิชิ อูชิยาม่า" ได้สร้างสรรค์คิดค้นซูซิสุดแปลก ที่ได้นำแมลงต่างๆมาวางลงบนหน้าซูซิ ไม่ว่าจะเป็นแมงมุม แมลงสาบ จิ้งหรีดจั๊กจั่น แมงดา ไข่มดแดง ดักแด้เป็นต้น แต่ไม่รู้ว่างานนี้จะมีใครกล้ากินอาหารสุดแปลกแบบนี้บ้าง เอาเป็นว่าเราไปชมภาพกันเลยครับ

วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เมนูอาหารเหลาสูตรภัตตาคาร ที่ร้าน ‘เกาเลี้ยง’

เมนูอาหารเหลาสูตรภัตตาคาร ที่ร้าน ‘เกาเลี้ยง’


Picture
 ร้านเกาเลี้ยง หรือชื่อเดิม ร้านข้าวฟ่าง เป็นร้านอาหารที่ให้บริการเมนูมากมายหลากหลายอย่าง โดยส่วนใหญ่จะเน้นไปที่เมนูอาหารจีน รวมถึงมีบริการรับจัดโต๊ะจีน ที่รองรับสูงสุดถึง 150 โต๊ะเลยทีเดียว ด้วยประสบการณ์การเป็นเชฟให้กับโรงแรมชั้นนำกว่า 12 แห่ง ของเชฟเกา ทำให้ลูกค้าต่างติดอกติดใจ ในรสชาติและฝีมือในการปรุงอาหาร ต่างแวะเวียนกันมาอุดหนุนกันเป็นประจำ ทั้งลูกค้าขาจร ขาประจำ และลูกค้าที่ไว้ใจให้ทางร้านดูแลการจัดโต๊ะจีน
พิกัดของร้านตั้งอยู่ ถนนกลางเมือง ใกล้ตลาดเคหะขอนแก่น ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่ 11 โมงเช้า ถึง 4 ทุ่มครึ่ง โปรโมชั่น ทานครบ 900 บาท ฟรี ปูนิ่มผัดผงกะหรี่ 1 จาน ถึง 31 มีนาคม 2559
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.043-225-598

ข้าวแกงปักษ์ใต้แบบบุฟเฟ่ต์ พร้อมอาหารทะเลสดส่งตรงถึงที่ ที่ร้าน ‘เต๋าเต้ย’


Picture

ร้านเต๋าเต้ย เป็นร้านอาหารน้องใหม่ที่พึ่งเปิดได้เพียงไม่กี่วันเท่านั้น แต่คุณภาพและรสชาติของอาหารต้องขอบอกเลยว่าครบเครื่องจริง ๆ ด้วยราคาที่ถูกแสนถูกเพียง 59 บาท/ท่าน จะอิ่มมาก อิ่มน้อย ก็เลือกทานกันได้อย่างสบายใจ ทางร้านการันตีคุณภาพอาหารทะเล ที่ส่งตรงแบบไม่แช่สารฟอมาลีน สด สะอาด ปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีบริการจัดส่งนอกสถานที่ฟรี ในเขตตัวเมืองขอนแก่นอีกด้วย
ร้านเต๋าเต้ย ตั้งอยู่ที่ถ.กสิกรทุ่งสร้าง ใกล้สามแยกถนนหลังศูนย์ราชการ
ร้านเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 7.30 ถึง 15.00 และในช่วงเย็น ตั้งแต่ 16.00 ถึง 22.00
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 
โทร.043-007-588

วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เต้าหู้เหม็นเป็นอาหารขึ้นชื่อของจีน

Picture

เต้าหู้เหม็นเป็นอาหารขึ้นชื่อของจีน ไต้หวัน ฮ่องกง นิยมกินเป็นอาหารจานเคียงหรือกินเล่น มีขายทั่วไป มีกลิ่นเหม็นสมชื่อ บางคนให้นิยามว่าเหม็นเหมือนขยะเน่า เนื้อเน่า บางคนก็ว่าเหม็นใกล้เคียงกับกลิ่น BLUE CHEESE ของฝรั่ง กลิ่นของเต้าหู้เหม็นลอยไปได้ไกล ได้กลิ่นกันเป็นสี่แยกเป็นป้ายรถเมล์ทีเดียว
ถึงแม้กลิ่นจะเหม็น แต่กลายเป็นของขึ้นชื่อเพราะรสชาดสวนทางกับความเหม็น บางคนชอบมาก บางคนไม่ชอบเลย คล้ายกับคนรักทุเรียน รักจัด เกลียดจัดเช่นเดียวกัน
สาเหตุความเหม็นของเต้าหู้มาจากที่เต้าหู้เกิดการหมักเต้าหู้จนเกิดเชื้อราสีเขียวขึ้นที่ก้อนเต้าหู้ เต้าหู้ที่มีเชื้อราขึ้นแล้วนี้สามารถนำไปกินได้หลายวิธี เช่น กินสด เอาไปนึ่ง ตุ๋น แต่ที่นิยมสุดๆ คือเอาทอดให้กรอบและราดด้วยซอสพริก (คล้ายๆ กับน้ำจิ้มไก่แต่ไม่หวาน) แนมด้วยผักดองเช่น แตงกวา หรือกะหล่ำปลี
ตำนานเต้าหู้เหม็นมีหลากหลาย แต่ที่นิยมสุดๆ เป็นเรื่องของหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาสอบจอหงวนที่ปักกิ่งแต่สอบไม่ผ่าน เลยต้องขายเต้าหู้เลี้ยงชีพ วันหนึ่งเต้าหู้ขายไม่ดีเหลือเยอะแยะ ไม่รู้จะทำอะไรเลยเอาเต้าหู้ใส่เกลือใส่เครื่องปรุง ใส่ไหปิดฝา เวลาผ่านไปเปิดออกดูพบว่าเหม็นสุดๆ  แต่ลองชิมแล้วพบว่าอร่อยดีจึงทำออกขาย
นอกจากนี้เต้าหู้เหม็นยังมีประวัติย้อนไปไกลถึงสมัยซูสีไทเฮา ว่าวันหนึ่งพระองค์เบื่ออาหาร มหาดเล็กเสาะหานำอาหารแปลกขึ้นตั้งโต๊ะ ไปเจอเต้าหู้เหม็นจึงนำขึ้นถวาย พระองค์ลองชิมแล้วถูกพระทัย เต้าหู้เหม็นเลยได้เป็นอาหารชาววังนับแต่นั้นมา

วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558

อิ่มอร่อยกับอาหารไทย-อีสาน หลากเมนู ที่ร้าน ‘ระเบียงน้ำ’

Picture

​ร้าน ระเบียงน้ำ เป็นร้านอาหารไทย-อีสาน น้องใหม่ที่พึ่งเปิดได้เพียงไม่น่าน จุดเด่นของร้านอยู่ที่บรรยากาศของร้านที่ร่มรื่น มีระเบียงที่ยื่นออกไปในบริเวณน้ำ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย จนเป็นที่มาของชื่อร้านมาดูเมนูอาหารของร้านกันบ้าง อาหารของร้านจะเน้นไปที่เมนูปลาซะเป็นส่วนใหญ่ อาทิ ปลาช่อนลุยสวน ปลากระพงนึ่งมะนาว ปลาจาระเม็ดทอดน้ำปลา ฯลฯ   สำหรับลูกค้าที่ต้องการจัดเลี้ยงแบบเป็นส่วนตัว ที่ร้านก็มีบริการห้องจัดเลี้ยงพ้รอมคาราโอเกะ 2 ห้องด้วยกัน นอกจากนี้ในอนาคตจะมีการเปิดบ่อให้สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการตกปลา ได้มาทำกิจกรรมร่วมกันอีกด้วย
พิกัดของร้านระเบียงน้ำ ตั้งอยู่ที่ ถ.เลี่ยงเมือง ฝั่งต.พระลับ เลยวัดป่าแสงอรุณ
ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 5 โมงเช้า ถึง 5 ทุ่ม
โทร.098-195-4039 , 094-527-6525

วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2558

อาหารสไตล์อเมริกัน เม็กซิกัน และดื่มด่ำกับเมนูเครื่องดื่มคุณภาพ ที่ร้าน ‘Didines’


อาหารสไตล์อเมริกัน เม็กซิกัน และดื่มด่ำกับเมนูเครื่องดื่มคุณภาพ ที่ร้าน ‘Didines’

Picture

ร้านอาหารสไตล์ อเมริกันผสมกับเม็กซิกัน หนึ่งเดียวในจังหวัดขอนแก่นกัน กับร้าน “Didines”
ร้าน Didines เป็นร้านอาหารที่มีเชฟหลักด้วยกัน ถึง 3 คน โดยเป็นเชฟไทย 2 คน และเชฟชาวออสเตรเลี่ยน 1 คน ซึ่งเคยมีประสบการเรียนทำอาหารที่ประเทศออสเตรเลียมาแล้ว โดยจุดเด่นของร้านนี้คือการนำเสนอเมนูอาหารสไตล์อเมริกันผสมเม็กซิกัน รวมถึงเครื่องดื่มชั้นนำจากทั่วโลก
เมนูอาหารของร้านนอกจากจะมีจุดเด่นที่เมนูอเมริกัน เม็กซิกันแล้ว ยังมีเมนูอาหารยุโรป อาหารฝรั่งเศส และเมนูอาหารไทยไว้ให้บริการอีกด้วย ตามลุงยิ้มไปชมพร้อม ๆ กันเลยว่าวันนี้จะนำเมนูอะไรมาให้ชมกันบ้าง
พิกัดของร้าน Didines ตั้งอยู่ที่ ถ.ประชาสำราญ ปากทางเข้าโรงแรม Pullman
ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 5 โมงเย็น ถึง 4 ทุ่มครึ่งสำหรับเมนูอาหาร
โทร.089-711-1187

วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2558

สุดยอดเมนูสำหรับคนรักมาม่าที่ร้าน ‘มาม่าหน้าหม้อ’

สุดยอดเมนูสำหรับคนรักมาม่าที่ร้าน ‘มาม่าหน้าหม้อ’
Picture

ร้านอาหารเด็ด ที่กำลังเป็นกระแสโด่งดังของจังหวัดขอนแก่นในตอนนี้เลยทีเดียว กับร้าน “มาม่าหน้าหม้อ” หากใครที่ได้เคยมีโอกาสแวะเวียนผ่านไปทางถนนกัลปพฤกษ์ คงจะคุ้นเคยกับร้านอาหารชื่อดังอย่าง “สรวลหรรษา” กันเป็นอย่างดี และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงของร้าน ที่มีการเพิ่มเมนูเพื่อเจาะกลุ่มนักศึกษาอย่าง “มาม่า” นี้ขึ้นมา และหากพูดถึงเมนูมาม่า อาหารยอดนิยมของเหล่านักศึกษาและเหล่ามนุษย์เงินเดือนเบี้ยน้อย หอยน้อย ในยามสิ้นเดือน คงจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่ที่ร้านนี้ได้นำเมนูง่าย ๆ นี้เองมาเนรมิตรเป็นเมนูมาม่าสุดแสนจะอลังการ 

Picture

ร้านมาม่าหน้าหม้อ ตั้งอยู่ที่ถนนกัลปพฤกษ์ ติดกับร้านสรวลหรรษา
ร้านเปิดทุกวัน เอาใจคนนอนดึกตั้งแต่ 6 โมงเย็น ยาวไปจนถึง ตี 3 

สอบถามข้อมูล โทร.043-347-244

หนูปิ้งบาร์บีคิว



Picture

มื้อนี้สิพาทุกๆคนมาพบกับเมนูเปิบพิสดารที่บ่ธรรมดาเลย เพราะมันคือเมนู หนูปิ้งบาร์บีคิว คิว คิว ที่มันต่างจากหนูปิ้งธรรมดาทั่วไป คือมันมีรสชาติของบาร์บีคิว ในสไตล์อิตาเลี่ยน อีกด้วย แซ่บอย่าบอกใครเลย หนูปิ้งบาร์บีคิว เป็นเมนูยอดฮิตของชาวกัมพูชาและชาวเวียดนาม ซึ่งราคาตอนนี้ ขายต่อกิโลกรัมแพงกว่าไก่ปิ้งอีก หนูปิ้งบาร์บีคิว มีจุดเริ่มต้นจาก นายเหยิม ฉาน ชาวกัมพูชา ได้จับหนูนามาเพื่อขาย พอจับได้หลายก็นำใส่รถมอเตอร์ไซค์ไปปิ้งขายที่ชายแดน แล้วกะมีลูกค้ามาซื้อมากมาย  หนูปิ้งบาร์บีคิว ทำมาจากหนูนาธรรมชาติ แต่หลายคนกลับมองกว่าหนูเป็นสัตว์ที่สกปรก จริงๆแล้วหนูนาปลอดภัยกว่าเนื้อสัตว์อื่นๆหลายชนิด เพราะหนูนาจะกินแต่ข้าวโพด ข้าว ตามท้องทุ่งนา เพราะฉะนั้น มั่นใจได้เลยว่า หนูปิ้งบาร์บีคิว เป็นเมนูเปิบพิสดาร แซ่บ กลมกล่อมไปกับรสชาติบาร์บีคิว ถ้าไผได้ลิ้มลอง รับรองติดใจแน่นอน เด้อค่ะเด้อ

ขอบคุณที่มาจาก : http://zappnuar.com/delicious-food/zappver-noo-ping-bbq/